แชมป์อังกฤษ, แชมป์ยุโรป, แชมป์โลก กับช่วงเวลาของ อาเดรียน

แชมป์อังกฤษ, แชมป์ยุโรป, แชมป์โลก กับช่วงเวลาของ อาเดรียน

ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 อย่างเป็นทางการ แม้ปัจจุบันจะเหลือเกมการแข่งขันให้ลงเล่นอีก 7 เกม กับความสำเร็จกับภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เมื่อใช้เวลาในการสร้างทีมมา 3-4 ปี โดยไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลย แม้จะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ลีก คัพ และยูฟ่า ยูโรป้าลีก รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรก แต่ก็ต้องเจอกับความพ่ายแพ้ทั้งหมด

และเมื่อทุกอย่างถูกหล่อรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งความมุ่งมั่นเพื่อลบความผิดหวัง การเสริมทัพที่ถูกจุด และตำแหน่งที่ต้องการได้สำเร็จ กับระบบการเล่นที่เริ่มลงตัว กับพลังในการวิ่งไล่บอลของนักเตะที่ไม่มีหมด เมื่อทุกๆ อย่างลงตัว กับความสำเร็จแรกเริ่มต้นด้วยฟุตบอลยุโรป เมื่อทีมสร้างความประทับใจได้มากมายจนกลายเป็นแชมป์สมัยที่ 6 โดยเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส คู่แข่งร่วมศึกพรีเมียร์ลีก แต่ผลงานในลีกสูงสุดของอังกฤษ กลับต้องเจอกับความผิดหวังที่น่าเศร้า เมื่อมีคะแนนน้อยกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียง 1 คะแนน ทั้งที่เก็บได้ถึง 97 คะแนน

ด้วยความผิดหวังในเกมพรีเมียร์ลีก ทำให้ฤดูกาล 2019-20 ทีมกลับมามีความมุ่งมั่นอีกครั้ง แม้ทีมจะไม่ได้มีการเสริมทัพใดๆ ที่ชัดเจนในชุดปัจจุบัน แต่ก็เซ็นสัญญา อาเดรียน ที่เพิ่งจะหมดสัญญากับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และดึงตัวมาร่วมทีมแบบงงๆ เมื่อทีมตัดสินใจปล่อย ซิมง มินโญเลต์ ออกไป

แต่แล้วโอกาสในการลงสนามเฝ้าเสาเปิดตัวของอาเดรียนก็มาไวกว่าที่คาดคิด เมื่ออลิสซอน เบ็คเกอร์ กลับได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาลที่พบกับนอริช ซิตี้ ซึ่งมือกาวชาวสเปนก็ทำผลงานออกมาได้เป็นที่น่าพอใจ และยังได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมของคล็อปป์อีกหลายเกม

ทีมยังคงทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลกมาได้ ก่อนที่จะผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนับเป็นการคว้าแชมป์แรกของอาเดรียน ตลอดการค้าแข้งฟุตบอลมาด้วย

อาเดรียน กล่าวกับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า “มันเป็นรอยยิ้มบนใบหน้า การเป็นแชมป์ยุโรป, แชมป์โลก และแชมป์ของอังกฤษ ไม่ใช่ทุกคนที่จะพูดแบบนี้ได้ ผมคิดว่าทุกคนสมควรได้รับมันในเวลานี้ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม แฟนบอลรอสิ่งนี้มานาน แล้วพวกเราก็ทำสำเร็จ พวกเราสู้มาตั้งแต่ต้นฤดูกาล และพวกเราทำทุกอย่าง พวกเราทำได้อย่างโดดเด่น มันเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสร และแฟนบอลลิเวอร์พูลก็สมควรได้รับมัน”

“ทุกคนรอคอยสิ่งนั้น มันเป็นเหมือนกับชีวิตพวกเรา ฤดูกาลที่แล้วมันแย่ เพราะพวกเราไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก แต่พวกเราได้แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ทุกคนต้องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกตั้งแต่วินาทีแรก พวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน พวกเราสู้กันทุกอย่าง ทุกจังหวะ ทุกการแย่งบอล พวกเราสนุกกับช่วงเวลาเหล่านี้ และพวกเรายังมีอีก 7 เกมให้เล่น”