ทำไมเรือใบถึงไม่ยอมขาย การ์เซีย ให้บาร์ซ่า

ทำไมเรือใบถึงไม่ยอมขาย การ์เซีย ให้บาร์ซ่า

เอริค การ์เซีย กองหลังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่สามารถย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จ แม้จะพยายามมาตลอดซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดลงในวันที่ 5 ตุลาคม แม้ว่าตัวนักเตะจะแสดงความต้องการในการย้ายกลับไปร่วมทีมเก่าอีกครั้ง หลังเคยอยู่กับทีมในแคว้นคาตาลันในช่วงเยาวชนที่ศูนย์ฝึกลา มาเซีย

บาร์ซ่าวางตัวปราการหลังชาวสเปนเป็นเป้าหมายหลักในการเสริมทัพเกมรับ และได้ยื่นข้อเสนอจำนวน 9 ล้านปอนด์ พร้อมกับโบนัสเพิ่มเติม ไปให้แมนฯ ซิตี้ พิจารณา แต่ข้อเสนอดังกล่าวก็ถูกปฏิเสธไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยืนยันในการเก็บการ์เซียให้อยู่ในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยมต่อไป แม้ว่าปัจจุบันนักเตะจะเหลือสัญญาอยู่กับต้นสังกัดไม่ถึง 12 เดือน เหมือนกับกรณีของเฟร์ราน ตอร์เรส ที่ถูกเซ็นสัญญาจากบาเลนเซียมาร่วมทีม เมื่อถูกเซ็นสัญญามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 33 ล้านปอนด์ ทั้งที่เหลือสัญญาไม่ถึง 1 ปี

แมนฯ ซิตี้ ต้องการค่าตัวของการ์เซียอย่างน้อย 20 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นจำนวนที่แตกต่างกับบาร์ซ่าอยู่มาก แต่กวาร์ดิโอล่าก็ยังคงยืนกรานในการเก็บนักเตะให้อยู่กับทีมต่อไป หากไม่ได้รับข้อเสนอเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าทีมจะจ่ายเงินไป 62 ล้านปอนด์ สำหรับการเซ็นสัญญารูเบน ดิอาส กองหลังจากเบนฟิก้าไปร่วมทีมในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของตลาด

นาธาน อาเก้, อายเมริค ลาปอร์ต และจอห์น สโตนส์ เป็นตัวเลือกในการลงสนามให้กับแมนฯ ซิตี้ และหมายความว่าการ์เซียอาจจะกลายเป็นส่วนเกินสำหรับทีม แม้ว่าทีมจะต้องเจอกับโปรแกรมการแข่งขันที่อัดแน่นตลอดทั้งฤดูกาล กับช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาด อาจจะเป็นสิ่งที่กวาร์ดิโอล่ามองเผื่อเอาไว้

การ์เซียวัย 19 ปี เป็นนักเตะที่ได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่หลายเกมในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันก็ยังเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยไม่สูง เมื่อเทียบกับนักเตะในทีมชุดใหญ่หลายคน ซึ่งนักเตะรับอยู่เท่าเดิม นับตั้งแต่ดึงตัวจากบาร์ซ่ามาร่วมทีมในปี 2018

แน่นอนว่า หากมองถึงจำนวนเงินที่จะได้จากบาร์ซ่าเพียง 9 ล้านปอนด์ กับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ไม่ถึง 12 เดือน กวาร์ดิโอล่าคงมองว่าทีมจะได้รับประโยชน์มากกว่า สำหรับการเก็บการ์เซียให้อยู่กับทีมต่อไป เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงสนามของทีม กับเกมการแข่งขันที่มากมายในฤดูกาลนี้ ทั้งเกมพรีเมียร์ลีก, ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากนักเตะก็ไม่ได้รับค่าเหนื่อยอะไรมากนัก ซึ่งไม่กระเทือนการเงินของทีมอย่างแน่นอน