เปเล่ คือใคร ?

ขอเสนอ 10 ข้อเท็จจริงที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับตำนานบราซิเลียน ! 

เขามักถูกยกย่องว่าเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล แต่เปเล่คือใครกันแน่ เรามาดูกันเถอะ เกี่ยวกับ 10 เรื่องที่น่าทึ่งเกี่ยวกับซุปเปอร์สตาร์นักฟุตบอลชาวบราซิลรายนี้

ชื่อเปเล่มีความหมายต่อคุณอย่างไร

แม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนฟุตบอล แต่ก็เป็นไปได้มากที่คุณจะต้องเคยได้ยินชื่อของเปเล่ ที่มีการพูดถึงในโลกกีฬา เปเล่อาจจะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพไปนานแล้ว แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาก็เป็นหนึ่งในกีฬาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก

เขาเริ่มอาชีพนักฟุตบอลเมื่ออายุ 15 ปี

เปเล่เกิดในปี 1940 ที่ประเทศบราซิล เมื่อตอนเป็นเด็ก เขาเล่นในสโมสรฟุตบอลเยาวชนหลายแห่งและได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เล่นอันดับต้น ๆ ในลีกเสมอ เมื่ออายุได้ 15 ปีเขาได้เซ็นสัญญากับซานโตสและเริ่มอาชีพนักฟุตบอลอาชีพจนได้ และจากที่นี่ เขาก็เริ่มสร้างตำนานขึ้นมา โดยการลงสนามให้กับซานโตสชุดใหญ่ในเกมแรกนั้น เขาเล่นเป็นกองหน้าและยิงคนเดียวถึงสี่ประตู แถมมันเป็นการยิงรัวๆคนเดียวตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของเกมเท่านั้น แล้วมันก็ทำให้คู่แข่งของเขาได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่ต้องระวังมากที่สุด ในขณะที่เขาเลิกเล่นมานานกว่า 40 ปีแล้ว แต่เขายังได้รับการยกย่องให้เป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์

เขาได้รับการตั้งชื่อตาม โธมัส เอดิสัน

ในขณะที่ชื่อเล่นของเขานั้น “เปเล่” เป็นชื่อที่โลกกีฬารู้จักเขา แต่ชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมายของเปเล่คือ “เอ็ดสัน” อย่างไรก็ตามเนื่องจากชื่อเอ็ดสันนั้นเป็นข้อผิดพลาดในสูติบัตร ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะเด็กชายที่มีชื่อว่า “เอ็ดสัน” แทนที่จะเป็น “เอดิสัน” หากคุณสงสัยว่าเปเล่ได้รับชื่อของเขามาได้อย่างไร ทุกอย่างก็ต้องวนกลับไปถามเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาในวัยเด็ก ในตอนแรกนั้น เขาได้รับฉายาว่า “ดิโก้” โดยครอบครัวของเขาเป็นคนตั้งให้ ซึ่งต่อมาเขาก็เปลี่ยนเป็น “เปเล่” ในช่วงที่เขาไปเล่นฟุตบอลที่โรงเรียนของเขา และกล่าวกันว่ามันน่าจะเกิดจากการออกเสียงผิดของเพื่อนๆ ทำให้เขาคิดว่าชื่อนี้เหมาะสมกับตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามในอัตชีวประวัติของเขา เปเล่ไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่า ชื่อนี้มาจากไหนหรือมันหมายถึงอะไร

เขาเติบโตขึ้นมาด้วยความยากจน

แม้ว่าพ่อของเปเล่จะเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง แต่ครอบครัวของเขาก็เป็นครอบครัวที่ยากจนมาก และใช้ชีวิตในรัฐเซาเปาโล และเพื่อหารายได้พิเศษ เปเล่ ต้องทำงานในร้านน้ำชาและทำงานเป็นคนรับใช้เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวอีกด้วย ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้รับการสอนวิธีการเล่นฟุตบอลโดยพ่อของเขา ครอบครัวของเขาไม่สามารถจ่ายเงินซื้อลูกฟุตบอลของจริงให้เขาเล่นได้ ทำให้เปเล่เอาถุงเท้ากับหนังสือพิมพ์มาม้วน หรือแม้แต่เอาผลส้มโอมาหัดเดาะและรวมถึงหัดเลี้ยงบอล แปบอล แต่ถึงแม้จะยากจน แต่เปเล่ก็สามารถต่อสู้กับมันและก้าวหนีออกมาจากความจนได้ ในขณะที่อาชีพของเขานั้นก็เบ่งบานในที่สุด และเขาก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้เล่นฟุตบอลที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก

เขาเป็นผู้รับรางวัลมากมายหลายรายการจากทั่วโลก

รัฐบาลบราซิลยังประกาศให้เขาเป็น “สมบัติของชาติ” ในปี 1961 เพื่อป้องกันไม่ให้สโมสรฟุตบอลแห่งอื่น มาพาเขาออกจากประเทศไป ในขณะเดียวนั้น มันเป็นไปได้ยากด้วยสำหรับตัวของเขาที่จะไปเล่นนอกลีกอเมริกาใต้ในเวลานั้น ในปี 1999 เขาได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นระดับโลกแห่งศตวรรษโดยสหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลนานาชาติ ในปีเดียวกันนั้นเองเปเล่ได้รับเลือกตั้งเป็นนักกีฬาแห่งศตวรรษโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ทุกวันนี้มูลค่าสุทธิของเปเล่ถูกกล่าวกันว่า เขามีมูลค่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

เขาแต่งงาน 3 ครั้ง

เปเล่แต่งงานสามครั้งและถูกกล่าวหาว่ารายงานเรื่องที่ว่า เจ้าตัวมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวหลายครั้งด้วย แล้วมันก็เป็นผลให้เปเล่มีลูกหลายคน แม้ว่าจำนวนของบุตรที่แน่นอนของเปเล่ จะยังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจน แต่ก็ถือว่าเขามีลูกอย่างน้อย 7 คน และในปี 2016 และตอนที่ เปเล่ อายุครบ 73 ปี เปเล่ก็แต่งงานอีกครั้งกับ มาร์เซีย อาโอกิ หุ้นส่วนวัย 41 ปีของเขา

เขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 3 ครั้ง

เปเล่เป็นนักฟุตบอลเพียงคนเดียวที่อยู่ในทีมชาติบราซิลที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกถึงสามสมัย เขาได้แชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1958 ที่เปเล่กลายเป็นที่รู้จักในระดับสากล ในฐานะหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก เมื่อตอนที่บราซิลแพ้ให้กับอุรุกวัยในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1950 พ่อของเปเล่ก็ร้องไห้หลังเกม เปเล่สัญญากับเขาว่าวันหนึ่งเขาจะพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก เมื่อปรากฏว่าเปเล่สามารถทำให้ความฝันนี้เป็นจริงได้ในอีก 8 ปีต่อมา มันทำให้ครอบครัวของเขาประทับใจมาก และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ได้แชมป์โลกไป 3 ครั้ง

เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในโลก

ตลอดอาชีพของเขา เปเล่ทำประตูไป 1281 ประตูจากในเกม 1,363 เกม ตามประวัติศาสตร์ที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติและสถิติได้บันทึกเอาไว้ สิ่งนี้ทำให้เขาได้รับตำแหน่งนักเตะที่ยิงประตูได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ เขายิงได้ 92 ลูกในการเล่นให้ทีมชาติ และเคยทำประตูคนเดียวได้ถึงแปดประตูในนัดเดียวมาแล้วด้วย

เขาทำงานให้กับรัฐบาล

หลังจากเกษียณจากการเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 1977 เปเล่ตัดสินใจทำงานให้กับรัฐบาลและเติมเต็มความปรารถนาของเขา ระหว่างปี 1995 ถึง 1998 เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของบราซิล และเขายังทำหน้าที่เป็นทูตของสหประชาชาติและทำงานในภาคนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย