
โรเมลู ลูกากู กองหน้าชาวเบลเยี่ยม ยอมรับว่า ตัวเขาไม่ได้แม้แต่สัมผัสถ้วยแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพียงปลายนิ้ว กับแชมป์ของทีมในฤดูกาล 2011-12 และยังยืนยันถึงความไม่พอใจต่อ อันเดร วิลลาช-โบอาช อดีตกุนซือหนุ่มชาวโปรตุเกสของทีม
ลูกากูถูกดึงตัวมายังสแตมฟอร์ด บริดจ์ พร้อมกับความหวังในการทำลายล้างแดนหน้าให้กับทีมของวิลลาช-โบอาชที่เข้ามาคุมทีมในกรุงลอนดอน และถูกคาดหวังที่จะก้าวเท้าเดินรอยตามโชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่เดอะ สเปเชียล วัน แต่สุดท้ายแล้วก็คุมทีมได้ไม่กี่เดือน หลังทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่จนถูกปลดออกจากตำแหน่ง และเป็นโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอที่เข้ามาคุมทีมแทน
แต่อย่างไรก็ตาม ดิ มัตเตโอกลับมาเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ สำหรับการเจอกับบาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อดวลจุดโทษเอาชนะได้ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ในขณะที่ลูกากูลงสนามให้กับทีมในฤดูกาลแรกไปเพียง 12 เกมเท่านั้น แต่ก็ยังได้เดินทางไปกับทีมสำหรับเกมนัดนี้
ลูกากูได้ออกมากล่าวถึงการเฉลิมฉลองแชมป์ยุโรปสมัยแรกของสโมสร และยังกล่าวถึงการร่วมงานกับวิลลาช-โบอาช ด้วยว่า “ดิ มัตเตโอบอกผมว่า ผมจะอยู่กับทีมไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ เขาคิดว่า ทุกคนควรจะได้อยู่ด้วยกันทั้งหมด รวมถึงนักเตะที่ติดโทษแบนด้วย กับเด็กๆ ที่ไม่ได้ลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก ผมรู้สึกขอบคุณเขามากๆ”
“การคว้าแชมป์มันเป็นหนึ่งในความฝันของผมเสมอ คุณต้องการฉลองมันเหมือนกับทีมในช่วงเวลานั้น มันเป็นเรื่องดีสำหรับตัวผมเอง เมื่อผมมีอายุ 19 ปี ผมมีความสุขมากๆ กับสโมสร แต่มีผู้ชายคนหนึ่งที่เอาเวลาของผมไป เขาก็คือโค้ชคนก่อนหน้านั้น (วิลลาช-โบอาช) ผมไม่มีทางลืมเขาได้เลย”
“ผมไม่ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์แม้แต่ปลายนิ้วของผม เพราะผมรู้ดีว่า ผมไม่ได้คว้าแชมป์รายการนี้ด้วยตัวผมเอง เรื่องนี้มันเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับผม นับตั้งแต่ผมอายุ 11 ปี ถ้าผมได้แชมป์อะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าผมไม่ได้มีส่วนร่วม มันจะไม่ใช่ถ้วยแชมป์ของผม ถ้าคุณมีส่วนร่วมกับถ้วยแชมป์ หรือทำให้ทีมเป็นแชมป์ด้วยตัวคุณเอง คุณสามารถโชว์สิ่งนั้นออกมาได้เลย”
ลูกากูผ่านการลงเล่นให้กับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, เอฟเวอร์ตัน และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่จะย้ายมายังอินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาล 2019-20 และเป็นกำลังสำคัญในการลุ้นแชมป์เซเรียอา ให้กับทีมของอันโตนิโอ คอนเต้